Home Fit Trend FOOD FOR FIT กาแฟดำช่วยระบบลำไส้อย่างไร

กาแฟดำช่วยระบบลำไส้อย่างไร

เมื่อสุขภาพลำไส้ดี สุขภาพร่างกายโดยรวมก็จะดีตามไปด้วย ลำไส้ไม่ได้มีหน้าที่ย่อยและดูดซึมสารอาหารเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่สำคัญในการดูแลสุขภาพโดยรวมของร่างกายอีกด้วย เพราะลำไส้เปรียบเสมือนศูนย์ควบคุมระบบต่าง ๆ ทั้งด้านภูมิคุ้มกัน อารมณ์ และการทำงานของอวัยวะอื่น ๆ ดังนี้

ลำไส้ควบคุมระบบภูมิคุ้มกัน (มากถึง 70–80% ของภูมิคุ้มกันอยู่ที่ลำไส้)
ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายของคนเรานั้นมีความสำคัญที่สุด เพียงแค่ดูแลให้ภูมิไม่ตกไว้ก่อน เป็นดีต่อร่างกายที่สุดที่จะไม่ต้องอักเสบเจ็บป่วยง่าย และไม่เสี่ยงต่อการเป็นโรคอันตรายร้ายแรงอีกด้วย แต่การที่ร่างกายจะมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงได้นั้น ก็ต้องดูแลร่างกายเป็นอย่างดี เช่น หมั่นออกกำลังกาย กินอาหารที่มีประโยชน์ มีสุขภาพจิตที่ดี มีความเป็นอยู่ในสภาพแวดล้อมดีที่ปราศจากมลภาวะ ที่สำคัญ มีระบบทางเดินอาหารหรือระบบลำไส้ที่ปกติ มีการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่มีอาการผิดปกติหรือสัญญาณของความไม่สมดุล เพราะมากถึง 70-80% ของระบบภูมิคุ้มกันอยู่ที่ลำไส้ เนื่องจากเป็นที่อยู่ของเซลล์เพชฌฆาต หรือ NK Cell (Natural Killer Cell) หรือเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญที่สุดในระบบภูมิคุ้มกันโดยกำเนิด

NK Cell มีหน้าที่กำจัดเซลล์ที่ติดเชื้อไวรัส เซลล์มะเร็ง และเซลล์ที่ผิดปกติอื่น ๆ โดยการหลั่งสารพิษใส่เซลล์เป้าหมายและเหนี่ยวนำให้เซลล์เหล่านั้นเกิดการตาย NK Cell จึงเปรียบเสมือนทหารแนวหน้า ที่คอยตรวจสอบและกำจัดสิ่งแปลกปลอมหรือเซลล์ที่ผิดปกติในร่างกาย ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อโรคต่าง ๆ ซึ่งโดยปกติร่างกายคนเราจะมี NK Cell อยู่ประมาณ 2000-5000 ล้านเซลล์ ไม่ควรต่ำกว่านี้ [1] [2] [3] [4]

ลำไส้เป็นสมองที่สอง
ลำไส้ถูกเรียกว่า “สมองที่สอง” (The gut is the second brain) ไม่ใช่แค่คำเปรียบเปรยธรรมดา แต่มันมีพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับอยู่จริง ๆ "ลำไส้เป็นสมองที่สอง" คำนี้มาจากการที่นักวิทยาศาสตร์พบว่าระบบประสาทในลำไส้มีความซับซ้อน สามารถควบคุมการทำงานได้ด้วยตัวเอง และมีผลต่ออารมณ์ ความรู้สึก และการทำงานของสมองผ่านการสื่อสารระหว่างระบบประสาทและสารเคมีในร่างกาย...แล้วทำไมลำไส้ถูกเรียกว่าสมองที่สอง?

ลำไส้มีระบบประสาทของตัวเอง เรียกว่า Enteric Nervous System (ENS) ประกอบด้วยเซลล์ประสาทกว่า 100 ล้านเซลล์ (ใกล้เคียงกับไขสันหลัง) ควบคุมการย่อยอาหาร การดูดซึม และการเคลื่อนไหวของลำไส้ โดยไม่ต้องรอคำสั่งจากสมอง

สื่อสารกับสมองโดยตรงผ่าน Gut-Brain Axis เป็นการสื่อสาร 2 ทาง ระหว่างลำไส้กับสมอง ผ่านทางเส้นประสาทเวกัส (Vagus Nerve) และสารสื่อประสาทต่าง ๆ เช่น เซโรโทนิน (Serotonin) ถึง 90% ถูกผลิตในลำไส้ ไม่ใช่ในสมอง เคยได้ยินคำว่า “gut feeling” หรือ “ลำไส้บอกเรา” ไหม? นั่นไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ซึ่ง Gut-Brain Axis ทำให้ลำไส้สามารถส่งสัญญาณถึงสมองและมีผลต่ออารมณ์ ความเครียด และสุขภาพจิต [5]

ตัวอย่างความสัมพันธ์ระหว่าง “สมอง” กับ “ลำไส้”
  • สมอง เครียด → ปวดท้อง หรือ วิตกกังวล → ท้องเสีย
  • ลำไส้ อาหารไม่ดี → อารมณ์แปรปรวน หรือ ลำไส้แปรปรวน → นอนไม่หลับ

ลำไส้เป็นแหล่งของจุลินทรีย์และผลิตฮอร์โมนบางชนิด
ลำไส้ไม่ใช่แค่ที่ย่อยอาหาร แต่ยังเป็นบ้านของจุลินทรีย์จำนวนมหาศาลนับล้านล้านตัว โดยเฉพาะในลำไส้ใหญ่ ซึ่งจุลินทรีย์เหล่านี้เรียกรวมกันว่า “ไมโครไบโอมในลำไส้” (Gut Microbiome) คือกลุ่มของ แบคทีเรีย, ไวรัส, เชื้อรา, และจุลินทรีย์อื่น ๆ ที่อาศัยอยู่ในระบบทางเดินอาหารของเรา ซึ่งมีทั้งชนิดดีและชนิดไม่ดี
  • จุลินทรีย์ดี = ช่วยย่อยอาหาร สร้างสารอาหาร ป้องกันโรค
  • จุลินทรีย์ร้าย = ทำให้เกิดการอักเสบ ท้องเสีย โรคเรื้อรัง

โดยเฉพาะจุลินทรย์ชนิดดีที่ชื่อ โพรไบโอติก ซึ่งอาศัยอยู่ตามธรรมชาติในระบบทางเดินอาหาร โดยเฉพาะในลำไส้ใหญ่ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการช่วยย่อยอาหาร เสริมภูมิคุ้มกัน และรักษาสมดุลของจุลินทรีย์ในร่างกาย

ชนิดของจุลินทรีย์โพรไบโอติกที่พบบ่อยในระบบลำไส้
  • Lactobacillus spp. (แลคโตบาซิลลัส) พบมากในลำไส้เล็ก มีส่วนช่วยผลิตกรดแลคติก ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียก่อโรค
ตัวอย่างสายพันธุ์: Lactobacillus acidophilus, Lactobacillus rhamnosus, Lactobacillus casei
  • Bifidobacterium spp. (บิฟิโดแบคทีเรียม) พบมากในลำไส้ใหญ่ มีส่วนช่วยย่อยใยอาหาร ผลิตกรดไขมันสายสั้น (SCFAs) และรักษาสมดุลจุลินทรีย์
ตัวอย่างสายพันธุ์: Bifidobacterium longum, Bifidobacterium bifidum, Bifidobacterium lactis
  •  Saccharomyces boulardii เป็นยีสต์โพรไบโอติก ที่มีบทบาทในการป้องกันและรักษาอาการท้องเสีย (เช่นจากยาปฏิชีวนะ) ทนต่อกรดและอุณหภูมิในระบบย่อยอาหารได้ดี
  • Streptococcus thermophilus ที่ใช้ในการผลิตโยเกิร์ต ช่วยย่อยแลคโตส (น้ำตาลในนม) เหมาะกับคนที่แพ้นมบางราย
  • Enterococcus faecium มีบทบาทในสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ บางสายพันธุ์ใช้เป็นโพรไบโอติกในสัตว์เลี้ยงและบางประเทศใช้ในมนุษย์

หมายเหตุ:
  • ลำไส้ของแต่ละคนมี “ไมโครไบโอม” (Microbiome) หรือชุมชนจุลินทรีย์เฉพาะตัว
  • โพรไบโอติกที่ดีจะต้องสามารถอยู่รอดผ่านกรดในกระเพาะ และน้ำดี เพื่อไปถึงลำไส้ได้
  • ประโยชน์ของโพรไบโอติกขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ (strain) เช่น Lactobacillus rhamnosus GG อาจมีผลต่างจาก Lactobacillus rhamnosus สายพันธุ์อื่น

โพรไบโอติก ยังมีหน้าที่ช่วยเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์ดีชนิดอื่น ๆ เพื่อช่วยรักษาสมดุลในลำไส้ นอกจากนั้นจุลินทรีย์ในลำไส้ยังมีผลต่อการหลั่งสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับจิตใจ (Psychobiotics) ได้แก่

เซโรโทนิน มีผลต่ออารมณ์ความรู้สึก รวมถึงความอยากอาหาร หากร่างกายของเราที่มีปริมาณเซโรโทนินที่สมดุล ไม่มากหรือน้อยเกินไป จะทำให้เรารู้สึกมีความสุขทั้งทางร่างกายและจิตใจ แต่ในทางตรงกันข้าม หากร่างกายคนเราไม่ผลิตเซโรโทนินออกมา จะส่งผลต่อความผิดปกติทางจิตใจ

โดปามีน คือสารเคมีในสมอง แต่ลำไส้ก็สามารถผลิตโดปามีนได้ โดยเซลล์เยื่อบุลำไส้ และจุลินทรีย์บางชนิด (เช่น Bacillus, Serratia, Escherichia coli) โดปามีน มีบทบาทสำคัญกับร่างกายโดยเฉพาะในระบบทางเดินอาหาร เช่น การควบคุมการบีบตัวของลำไส้ (peristalsis), กระตุ้นการหลั่งน้ำย่อย, มีผลต่อระบบประสาทลำไส้ (Enteric Nervous System) 

ซึ่งโดปามีนจากลำไส้จะไม่เข้าไปในสมองโดยตรง แต่มันสามารถส่งผลทางอ้อมผ่านการสื่อสารระหว่าง “ลำไส้-สมอง” (Gut-Brain Axis) เช่น จุลินทรีย์ในลำไส้กระตุ้นการหลั่งสารเคมีต่าง ๆ ที่มีผลต่อสมอง ส่งสัญญาณผ่านเส้นประสาทเวกัส (Vagus nerve) ไปยังสมอง [6] [7] [8] [9]

ลำไส้ดูดซึมสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ
หลังจากอาหารถูกย่อยแล้ว ลำไส้จะเป็นด่านสำคัญในการดูดซึมสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการไปใช้ในการซ่อมแซมและเสริมสร้างร่างกาย [10]

ลำไส้ผลิตวิตามินบางชนิดได้
เพราะในลำไส้ (โดยเฉพาะลำไส้ใหญ่) มีจุลินทรีย์ที่สามารถสังเคราะห์วิตามินบางชนิดได้เอง โดยเริ่มต้นจากการที่เรากินอาหารเข้าไป → ย่อยในกระเพาะ → ดูดซึมในลำไส้เล็ก จากนั้นอาหารที่ย่อยไม่หมดจะไปถึงลำไส้ใหญ่ ในลำไส้ใหญ่มีจุลินทรีย์นับล้านล้านตัว ที่สามารถย่อยสารเหล่านั้นต่อ และในกระบวนการนี้ พวกมันจะสร้างสารสำคัญบางอย่าง เช่น
  • วิตามิน K ที่จำเป็นต่อการแข็งตัวของเลือด เนื่องจากจุลินทรีย์บางสายพันธุ์ (เช่น E. coli บางชนิด) สามารถผลิตวิตามิน K2 ได้ → ร่างกายดูดซึมเพื่อนำไปใช้ในการแข็งตัวของเลือด
  • วิตามิน B หลายชนิด เช่น บี1 (ไทอามีน), บี2 (ไรโบฟลาวิน), บี6, บี9 (โฟเลต) และ บี12 แต่ วิตามิน B12 ที่ถึงแม้จุลินทรีย์จะผลิตเองได้ แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ในลำไส้ใหญ่ ซึ่งเป็นบริเวณที่ดูดซึม B12 ได้น้อย → จึงยังจำเป็นต้องได้รับจากมื้ออาหารด้วย [11] [12] [13]

“จุลินทรีย์ดีในลำไส้ เปรียบเสมือนโรงงานผลิตวิตามินเล็ก ๆ ที่ทำงานให้ร่างกายเราโดยไม่ต้องสั่ง”

ลำไส้ช่วยจัดการสารพิษและของเสีย
ลำไส้มีบทบาทสำคัญมากในการ จัดการสารพิษและของเสีย ในร่างกาย ไม่ใช่แค่เป็นท่อส่งอาหาร แต่ยังเป็น "ด่านสำคัญของระบบขับพิษ (detoxification)" และภูมิคุ้มกันด้วย

กลไกที่ลำไส้ใช้จัดการสารพิษและของเสีย
  • การดูดซึมสารอาหาร – คัดกรองของเสีย 
ผนังลำไส้ (โดยเฉพาะลำไส้เล็ก) มีเซลล์ที่ทำหน้าที่ดูดซึมเฉพาะสารอาหารที่มีประโยชน์
สารพิษ โลหะหนัก หรือจุลินทรีย์ก่อโรคส่วนใหญ่จะไม่สามารถผ่านเข้าเลือดได้ หากแนวเซลล์ลำไส้แข็งแรง
  • แบคทีเรียในลำไส้ (จุลินทรีย์ประจำถิ่น)
โพรไบโอติกช่วยจับสารพิษ เช่น แอมโมเนีย หรือสารก่อมะเร็งบางชนิด

ย่อยสลายเศษอาหารหมักหมม ลดการเกิดสารพิษจากการหมักเน่า เช่น อินโดล (indole) หรือสกาโทล (skatole)

ผลิตกรดไขมันสายสั้น (SCFAs) ที่ช่วยป้องกันการอักเสบในลำไส้
  • การเคลื่อนไหวของลำไส้ (Peristalsis)
ระบบลำไส้จะ บีบตัวเพื่อขับของเสียออก ไปทางอุจจาระ

หากลำไส้ไม่ขับถ่ายอย่างสม่ำเสมอ → สารพิษจะสะสมและถูกดูดซึมกลับเข้าสู่กระแสเลือด
  • เยื่อบุลำไส้ (Intestinal Barrier)
ผนังลำไส้มี Tight Junctions ที่ทำหน้าที่ ป้องกันไม่ให้สารพิษเข้าสู่เลือด

หากเกิดภาวะ "ลำไส้รั่ว (Leaky Gut)" สารพิษอาจรั่วเข้าสู่ร่างกายได้ → ก่อการอักเสบเรื้อรัง ภูมิแพ้ หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง
  • การขับออกทางอุจจาระ
ของเสียและสารพิษจากตับที่ถูกขับออกทางน้ำดี จะถูกส่งต่อมายังลำไส้เพื่อขับออกทางอุจจาระ

หากลำไส้ทำงานดี การขับพิษจะมีประสิทธิภาพมาก [14]



มาถึงตรงนี้ เริ่มตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพของลำไส้ที่มีต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตขนาดไหน ว่าแล้วก็อย่ารอช้า “สุขภาพลำไส้ดี = สุขภาพทั้งร่างกายดี" เริ่มต้นดูแลลำไส้ของคุณตั้งแต่วันนี้!
  1. กินผักผลไม้หลากสี ผัก ผลไม้ อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อระบบภูมิคุ้มกัน ระบบขับถ่าย ระบบประสาทและสมอง การบริโภคผักผลไม้หลากสีมีส่วนทำให้เราได้แร่ธาตุสารอาหารที่ครบหมู่
  2. ดื่มน้ำ 2-3 ลิตรต่อวัน น้ำมีส่วนสำคัญสำหรับช่วยในกลไกการทำงานของร่างกาย
  3. งดของทอดของมัน ของทอด ของมัน น้ำหวาน อาหารที่ไม่มีประโยชน์ หรือขนมที่มีส่วนผสมของน้ำตาลสูง คือตัวร้ายที่ส่งผลเสียต่อการทำงานของจุลินทรีย์ในลำไส้ให้เพี้ยนไปจากเดิม
  4. ออกกำลังกายและนอนหลับให้เป็นระบบงานวิจัยศึกษาพบว่าการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและการพักผ่อนนอนหลับอย่างเพียงพอ มีส่วนช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารของเราแข็งแรงขึ้นและทำให้สุขภาพลำไส้ดีขึ้นได้
  5. มีระบบขับถ่ายที่เป็นปกติ สำคัญที่สุดต้องมีวินัยในการขับถ่ายให้เป็นเวลาและสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการสะสมของสารพิษ ลดการตกค้างและการดูดซึมของสารพิษ
  6. เสริมโพรไบโอติกชนิดดี โพรไบโอติก จุลินทรีย์ชนิดดีที่ส่วนมากจะพบในอาหารที่ผ่านกระบวนการหมัก เช่น โยเกิร์ตรสธรรมชาติ กิมจิ มิโซะ นัตโตะ คอมบูชา เทมเป้ หรือในผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนของโพรไบโอติก เช่น กาแฟเพื่อสุขภาพ กาแฟผสมโพรไบโอติก น้ำขิงผสมโพรไบโอติก เป็นต้น โดยเฉพาะจุลินทรีย์โพรไบโอติกชนิดดีที่ชื่อว่า บาซิลลัส โคแอกกูแลน (Bacillus coagulans)
  • บาซิลลัส โคแอกกูแลน (Bacillus coagulans) คือจุลินทรีย์ชนิดหนึ่งในกลุ่ม โพรไบโอติก (Probiotic) ซึ่งมีลักษณะพิเศษคือเป็นแบคทีเรียสร้างสปอร์ (spore-forming bacteria) ทำให้ทนต่อความร้อน กรดในกระเพาะ และน้ำดีได้ดีกว่าโพรไบโอติกทั่วไป
  • บาซิลลัส โคแอกกูแลน (Bacillus coagulans) ไม่ใช่จุลินทรีย์ที่พบได้ในลำไส้มนุษย์เหมือนจุลินทรีย์ทั่วไป แต่สามารถรับประทานเสริมเข้าไปเพื่อเสริมคุณประโยชน์ให้กับระบบทางเดินอาหารได้
  • บาซิลลัส โคแอกกูแลน (Bacillus coagulans) เป็นแบคทีเรียที่สร้างสปอร์จึงมีความทนทานสูง และสามารถผ่านกรดในกระเพาะอาหารไปถึงลำไส้ได้
  • บาซิลลัส โคแอกกูแลน (Bacillus coagulans) เมื่อเข้าไปในลำไส้จะมีส่วนช่วยปรับสมดุลของจุลินทรีย์ และมีส่วนช่วยในกระบวนการย่อยอาหารและเสริมภูมิคุ้มกัน
  • บาซิลลัส โคแอกกูแลน (Bacillus coagulans) จะไม่ตั้งรกรากถาวรในลำไส้ (unlike Bifidobacterium หรือ Lactobacillus บางสายพันธุ์) เมื่อหยุดรับประทานก็จะค่อย ๆ ลดลงและหายไปจากลำไส้

ประโยชน์ของจุลินทรีย์โพรไบโอติก บาซิลลัส โคแอกกูแลน Bacillus coagulans
  • ช่วยปรับสมดุลลำไส้ ลดจำนวนแบคทีเรียก่อโรค และส่งเสริมแบคทีเรียดีในลำไส้
  • ลดอาการท้องเสีย เช่น ท้องเสียจากการใช้ยาปฏิชีวนะ หรือการติดเชื้อ
  • ช่วยเรื่องลำไส้แปรปรวน (IBS) มีการศึกษาว่าช่วยลดอาการปวดท้อง ท้องอืด ท้องผูก
  • ช่วยการย่อยอาหาร โดยการย่อยน้ำตาลและใยอาหารบางชนิดให้เป็นกรดไขมันสายสั้น (SCFAs)
  • เสริมภูมิคุ้มกัน มีส่วนในการกระตุ้นการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกันบางชนิด [15]



        7. ดื่มกาแฟดำ ไม่ใช่แค่ตื่น แต่ช่วยให้ลำไส้ตื่น
            ตัวอย่างมีสุขภาพดี
 กาแฟดำ มีส่วนช่วยในการกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ใหญ่ ทำให้การขับถ่ายเป็นปกติขึ้น ผ่านกลไกของคาเฟอีนที่กระตุ้นลำไส้ และสารโพลีฟีนอลที่เป็นอาหารของแบคทีเรียดีในลำไส้ ซึ่งช่วยส่งเสริมสุขภาพลำไส้โดยรวม นอกจากนี้ กาแฟดำยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์ลำไส้จากการถูกทำลายอีกด้วย



กาแฟดำกับสุขภาพลำไส้ ดื่มอย่างไรให้ได้ประโยชน์
กาแฟดำไม่ใช่แค่เครื่องดื่มกาแฟเพื่อสุขภาพยอดนิยมที่หลายคนขาดไม่ได้ในตอนเช้า แต่ยังเป็นแหล่งของสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพมากกว่า 1,500 ชนิด เช่น คาเฟอีน กรดคลอโรจีนิก โพลีฟีนอล และใยอาหารบางชนิด ซึ่งทั้งหมดนี้มีบทบาทที่น่าสนใจต่อสุขภาพลำไส้และระบบย่อยอาหาร ดังนี้

กาแฟดำประโยชน์ในการขับถ่าย มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ระบุว่า กาแฟสามารถกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ ช่วยให้การขับถ่ายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาท้องผูก หรือหลังการผ่าตัดช่องท้อง การดื่มกาแฟอาจช่วยให้ลำไส้กลับมาทำงานเร็วขึ้น เช่น การขับถ่ายครั้งแรก และการเริ่มกลับมารับประทานอาหารได้ตามปกติ

กาแฟดำประโยชน์ของจุลินทรีย์ในลำไส้ ซึ่งมีสิ่งที่น่าสนใจคือ มีงานวิจัยศึกษาหลายฉบับที่พบว่า สารบางชนิดในกาแฟดำ โดยเฉพาะแมนโนลิโกแซ็กคาไรด์จากกากกาแฟ สามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่มีประโยชน์ในลำไส้ และส่งผลให้เกิดการผลิตกรดไขมันสายสั้น (SCFAs) ที่ดีต่อสุขภาพลำไส้และการอักเสบในร่างกาย 

แม้ว่ากากกาแฟจะมีสารบางชนิด เช่น เฟอร์ฟูรัล และโพลีฟีนอล ที่อาจยับยั้งแบคทีเรียที่ดีบางกลุ่มได้ แต่โดยรวมแล้วผลเชิงบวกยังน่าจับตา และมีศักยภาพในการนำไปใช้เป็นพรีไบโอติกในอนาคต

กาแฟดำประโยชน์จากการทดลองในสัตว์ (ข้อมูลเบื้องต้นที่น่าสนใจ)
งานวิจัยที่มีการศึกษากาแฟดำในหนูทดลองพบว่าในระยะสั้น มีส่วนช่วยกระตุ้นการหดตัวของกล้ามเนื้อลำไส้ เพิ่มการเคลื่อนไหวของระบบทางเดินอาหาร และมีแนวโน้มในการควบคุมชนิดของจุลินทรีย์ในลำไส้ให้เหมาะสม ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่อาจช่วยให้ลำไส้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น 

แต่ยังมีจุดที่ต้องพิจารณาว่า งานวิจัยหลายชิ้นจะให้ผลลัพธ์เชิงบวก แต่ก็มีบางการศึกษาในหนูที่เป็นโรคเมตาบอลิกซินโดรมที่ไม่พบการเปลี่ยนแปลงของแบคทีเรียลำไส้อย่างชัดเจนหลังกินกาแฟดำ อย่างไรก็ตาม กาแฟดำยังคงมีผลดีในด้านอื่น เช่น การลดความเสี่ยงของโรคทางเมตาบอลิก และการปรับปรุงการอักเสบของตับ แม้ในกรณีที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงน้ำหนัก



สารสำคัญในกาแฟดำ คาเฟอีนและกรดคลอโรจีนิก
ทั้งสองสารนี้มีบทบาทในการฟื้นฟูระดับ SCFAs และปรับสมดุลการอักเสบในร่างกาย ซึ่งอาจเป็นหนึ่งในกลไกที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพลำไส้ แม้ยังไม่สามารถ "ซ่อมแซม" ความผิดปกติของจุลินทรีย์ในลำไส้ได้ทั้งหมด แต่ก็มีแนวโน้มในการปรับปรุงชนิดของแบคทีเรียบางกลุ่ม เช่น Blautia, Coprococcus และ Prevotella ซึ่งเป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพที่ดี [16] [17] [18]

สุดท้ายนี้ "สุขภาพที่ดีเริ่มต้นจากลำไส้ที่แข็งแรง" การดูแลลำไส้ของเราก็เหมือนกับการสร้างพื้นฐานที่มั่นคงให้กับระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันโรคภัย แต่ยังช่วยให้สุขภาพจิตดีขึ้นอีกด้วย ซึ่งการให้ความสำคัญกับการเลือกกินอาหารที่ดี ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และรักษาความสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ จะเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพระยะยาวที่คุ้มค่าที่สุด เริ่มต้นดูแลลำไส้ของคุณตั้งแต่วันนี้ แล้วคุณจะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงที่ดีทั้งทางร่างกายและจิตใจอย่างแน่นอน
ที่มา
[1] ดูแลระบบทางเดินอาหารให้สุขภาพดีอย่างยืนยาว 
[2] เซลล์เพชฌฆาต Natural Killer Cells คืออะไร?
[3] ทำความรู้จักเซลล์เพชรฆาต NK Cell ที่คอยสังหารเชื้อโรคในร่างกาย HDmall.co.th
[4] เนื้อเยื่อวิทยา เซลล์เพชฌฆาตธรรมชาติ / National Library of Medicine
[5] เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับความฉลาดของระบบย่อยอาหาร-ฉายาสมองที่ 2" ของมนุษย์
[6] จุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหาร ไม่สมดุล-เสี่ยงโรค
[7] สมองกับลำไส้ร่วมกันทำงาน ควบคุมอารมณ์ของคนเราได้อย่างไร? / ออนเดร เบียร์นาธ / บีบีซี เวิลด์ เซอร์วิส
[8] ไมโครไบโอมในลำไส้ของคุณคืออะไร?
[9] จุลินทรีย์ในลำไส้และสุขภาพ: ข้อมูลเชิงลึกเชิงกลไก
[10] การดูดซึมของลำไส้
[11] ลำไส้ใหญ่มนุษย์ผลิตวิตามิน B12 ได้
[12] วิตามินบี บทบาทของจุลินทรีย์ในลำไส้และสุขภาพลำไส้
[13] บทบาทกลางของจุลินทรีย์ในลำไส้ในโภชนาการของวิตามินบีและอิทธิพลที่มีต่อสุขภาพของมนุษย์
[14] ระบบการทำงานของลำไส้
[15] สุขภาพลำไส้ดี เริ่มที่รู้จัก 4 ไบโอติกสำคัญ
[16] กาแฟช่วยเรื่องขับถ่ายจริงหรือไม่? / RAMA Channel
[17] กาแฟดำประโยชน์ดี
[18] กาแฟดำประโยชน์ดีต่อลำไส้ / Is Coffee Good for the Gut?
Other Articles