Home Fit Trend FOOD FOR FIT งานวิจัยยืนยันประโยชน์ของโกโก้ในฐานะซูเปอร์ฟู้ด

งานวิจัยยืนยันประโยชน์ของโกโก้ในฐานะซูเปอร์ฟู้ด

สุขภาพดีแบบง่าย ๆ แค่กินโกโก้” สุดยอดอาหารระดับซูเปอร์ฟู้ด (superfood) ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและได้รับความนิยมไปทั่วโลก โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบโกโก้ต่างรู้ดีว่า โกโก้ (Cocoa) หรือ ผงโกโก้ เป็นผลผลิตที่ได้จากเมล็ดคาเคา (Cacao) หรือต้นโกโก้ (Theobroma cacao) ซึ่งผ่านกระบวนการแปรรูปเพื่อแยกส่วนประกอบต่าง ๆ ออกมา โดยการนำฝักโกโก้ (Cocoa) หรือเมล็ดคาเคา (Cacao) ที่สุกแล้ว ไปทำการหมักเพื่อให้เกิดรสชาติและนำไปตากให้แห้ง จากนั้นจึงนำไปคั่วด้วยความร้อนจนเปลือกโกโก้ล่อนจนหมด ก็จะได้เป็นโกโก้นิบส์ (Cocoa nibs) หรือคาเคานิบส์ (Cacao nibs) จากนั้นก็นำโกโก้นิบส์นี่แหละ ไปเข้าสู่กระบวนการบดในอุณหภูมิที่สูงขึ้น เพราะความร้อนสูงมีส่วนช่วยให้โกโก้เกิดความข้นหนืด อีกทั้งยังเกิดเป็นสีน้ำตาลเข้มจนกลายเป็น Cocoa Liquor [หรืออาจเรียกว่า Cocoa mass หรือ Cocoa paste ของเหลวข้นหนืดที่ได้จากการบด (grinding)] พร้อมเข้าสู่ขั้นตอนการบีบอัดด้วยความร้อน เพื่อสกัดเอาไขมันในโกโก้ออกไปจนหมด หรือให้เหลือเพียงแค่ 0-25% เท่านั้น เนื้อโกโก้ (Cocoa) ที่ได้จะถูกนำไปตากแห้ง แล้วถูกนำไปบดอีกครั้งจนกลายเป็นผงที่ละเอียดมาก ๆ ที่เรียกกันว่า ผงโกโก้ ที่มีความขม เข้มข้น มีกลิ่นหอม และดีต่อสุขภาพ เนื่องจากไม่มีไขมันผสมอยู่เลย หรือมีไขมันผสมอยู่น้อยมาก

โกโก้ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ตั้งแต่ในอดีตแล้ว โดยเฉพาะการนำคุณประโยชน์ของโกโก้มาใช้ในด้านอุตสาหกรรมต่าง ๆ อย่างกว้างขวาง เช่น
  • อุตสาหกรรมผลิตช็อกโกแลตหวาน และช็อกโกแลตนม โดยอุตสาหกรรมประเภทนี้ใช้ เหล้าช็อกโกแลต หรือ ช็อกโกแลตลิเคอร์ (Chocholate liquor) กับน้ำตาลเนยโกโก้ และส่วนผสมอื่น ๆ ผสมกัน ในอัตราส่วนตามสูตรของแต่ละแหล่งผลิตช็อกโกแลต
  • อุตสาหกรรมเครื่องดื่มนมรสช็อกโกแลต จะใช้ผงโกโก้ผสมกับนม น้ำตาล และวัตถุดิบสำหรับปรุงแต่งอื่น ๆ เช่น สารให้ความหวาน สารปรุงแต่งรสผสมกันเป็นเครื่องดื่มรสช็อกโกแลต
  • อุตสาหกรรมเบเกอรี่ ใช้ประโยชน์ของโกโก้เพื่อปรุงแต่งกลิ่นรสของผลิตภัณฑ์ประเภท โดนัท คุ้กกี้ ฯลฯ
  • อุตสาหกรรมลูกอมและลูกกวาด จะใช้โกโก้ และเหล้าช็อกโกแลต หรือ ช็อกโกแลตลิเคอร์ (Chocholate liquor) ในการปรุงแต่งกลิ่นรสของลูกอมและลูกกวาด
  • อุตสาหกรรมยา ประโยชน์ของโกโก้ที่ใช้จะเป็นในรูปแบบของน้ำเชื่อมโกโก้ มาเป็นหน่งในส่วนผสมของทั้งยาเม็ด ยาน้ำ และใช้เคลือบยาเม็ด เพื่อเป็นการกลบรสชาติความขมของยา เช่น ยาควินิน
  • อุตสาหกรรมยาสูบ จะใช้โกโก้เป็นส่วนผสมหลักในการผลิตยาสูบ เนื่องจากประโยชน์ของโกโก้มีส่วนทำให้เกิดกลิ่นหอมกลมกลืนกับกลิ่นใบยาและจะมีกลิ่นหอมมากขึ้นเมื่อรวมตัวเผาไหม้กับน้ำตาล
  • อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง นิยมใช้เนยโกโก้ หรือไขมันโกโก้ (Cocoa butter) ในการทำลิปสติก เพราะเนยโกโก้มีคุณสมบัติละลายได้เมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนแปลงที่ 37 องศาเซียลเซียส และยังมีการนำเปลือกของเมล็ดโกโก้ที่กะเทาะแยกจากใบเลี้ยงไปบีบเอาเนยโกโก้มาใช้เป็นส่วนผสมของการทำครีมบำรุงผิว สบู่ โลชั่น ฯลฯ

โกโก้ ความเหมือนที่แตกต่างจาก ช็อกโกแลต
เป็นที่ทราบกันดีว่า โกโก้และช็อกโกแลตมีความเหมือนชนิดที่ไม่ต่างกันมาก ซึ่งในความเป็นช็อกโกแลตนั้น คือการนำโกโก้เหลว หรือผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการนำส่วนประกอบของโกโก้ เช่น ผงโกโก้ผสมกับน้ำตาล นม หรือส่วนผสมอื่น ๆ เพื่อปรุงรสชาติและเนื้อสัมผัสให้เหมาะกับการบริโภค และเพื่อนำไปขึ้นรูปหรือเทใส่แม่พิมพ์โดยไม่แยกไขมัน  รสชาติของช็อกโกแลตจึงมีความหลากหลาย แต่ยังคงมีไขมันโกโก้ในปริมาณมาก และยังมีดาร์กช็อกโกแลตที่มีรสเข้มของโกโก้มาก หรือดาร์กช็อกโกแลต 100% ที่มีรสขม จึงมีการเติมนมและน้ำตาลผสมลงไปเป็นช็อกโกแลตนม ไปจนถึงมิลค์ช็อกโกแลตที่หวานมันจากนม และไวท์ช็อกโกแลตที่ไม่มีผงโกโก้เลย แต่ใช้เนยโกโก้เป็นหลัก เพื่อให้ได้รสชาติหอมหวานและรับประทานง่ายขึ้น [1]



โกโก้คุณค่าโภชนาการสูง 
และงานวิจัยยืนยันประโยชน์ของโกโก้ในฐานะซูเปอร์ฟู้ด

โดยคุณประโยชน์ของโกโก้ในด้านของคุณค่าทางโภชนาการนั้น พบว่ามีงานวิจัยเกี่ยวกับประโยชน์ของโกโก้มากมายทั่วโลก เนื่องจากโกโก้ถือเป็นซูเปอร์ฟู้ดสำหรับการนำมาบริโภคเพื่อสุขภาพได้ดังนี้

1. โกโก้มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
เนื่องจากในโกโก้มีสารฟลาโวนอยด์ และสารโพลีฟีนอล ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระคุณภาพดี ที่มีงานวิจัยศึกษาจาก Journal of Agricultural and Food Chemistry พบว่าโกโก้มีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าไวน์แดงและชาเขียว ยืนยันประโยชน์ของโกโก้ในฐานะซูเปอร์ฟู้ด [10] [11]

2. โกโก้ดีต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด
มีหลายงานวิจัยที่พบว่าสารฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ในโกโก้ดีต่อสุขภาพของหัวใจและหลอดเลือด ด้วยเพราะว่าสารฟลาโวนอยด์ถือเป็นสุดยอดสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่ง ที่มีส่วนช่วยชะลอหรือยับยั้งไม่ให้เกิดกระบวนการ Oxidative Stress ที่ทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่อาจเพิ่มความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพให้มากขึ้น ดังนั้น การได้รับสารชนิดนี้ในปริมาณที่เพียงพอเป็นประจำอาจช่วยลดความเสียหายที่เกิดจากการอักเสบ และช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่าง ๆ ได้

งานวิจัยยืนยันประโยชน์ของโกโก้ในฐานะซูเปอร์ฟู้ด พบว่าการบริโภคโกโก้หรือผลิตภัณฑ์จากโกโก้ ที่อุดมไปด้วยสารฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ และยังมีอีกหนึ่งงานวิจัยที่พบว่า ประโยชน์ของโกโก้หรือการบริโภคดาร์กช็อกโกแลตที่มีปริมาณสารฟลาโวนอยด์สูง มีส่วนช่วยลดความดันโลหิตและลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจได้  
  • ลดความดันโลหิต โดยงานวิจัยของ American Journal of Clinical Nutrition พบว่าการบริโภคโกโก้ที่อุดมไปด้วยสารฟลาโวนอยด์มีส่วนช่วยลดความดันโลหิตในผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูงระดับต้น ๆ
  • ลดความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ โดยงานวิจัยจาก British Medical Journal (BMJ) ระบุว่าการบริโภคโกโก้ในปริมาณที่เหมาะสม มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ประมาณ 37%
  • ปรับปรุงการทำงานของหลอดเลือด เพราะสารฟลาโวนอยด์ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด และกระตุ้นการผลิตไนตริกออกไซด์ (Nitric Oxide) ในเลือด ที่มีส่วนทำให้หลอดเลือดขยายตัว เพิ่มการไหลเวียนของเลือด ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด [2] [3] [4] [5]

3. โกโก้ดีต่อระบบประสาทและช่วยบำรุงสมอง
สารฟลาโวนอยด์ในโกโก้ยังมีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง มีส่วนช่วยให้เลือดไหวเวียนไปเลี้ยงสมองได้ดี และยังมีส่วนช่วยป้องกันภาวะสมองเสื่อมและโรคอัลไซเมอร์
  • งานวิจัยจาก Nature Neuroscience พบว่าสารฟลาโวนอยด์ในโกโก้ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในสมอง และช่วยเสริมความจำระยะสั้นในผู้สูงอายุ
  • ในโกโก้ยังมีสารฟีนิลเอทิลามีน (Phenylethylamine) ที่มีส่วนช่วยสร้างสารสื่อประสาท ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียด เพิ่มความสุข ที่ทำให้รู้สึกว่ากินโกโก้แล้วเกิดความรู้สึก feel good
  • มีงานวิจัยที่มีรายงานในวารสาร Neurology ระบุว่าประโยชน์ของโกโก้มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์และภาวะสมองเสื่อม [6] [7] [8] [9]

4. โกโก้ช่วยเร่งการเผาผลาญ ดีต่อการควบคุมน้ำหนัก
มีงานวิจัยจาก European Journal of Nutrition พบว่าสารฟลาโวนอยด์ในโกโก้มีส่วนช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน และเพิ่มความไวต่ออินซูลิน ซึ่งส่งผลดีต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และยังมีงานวิจัยที่มีการทดลองในหนู พบว่าโกโก้ช่วยลดการสะสมไขมันในร่างกาย และลดความเสี่ยงของโรคอ้วนอีกด้วย [12]

5. โกโก้ดีต่อระบบลำไส้
งานวิจัยยืนยันประโยชน์ของโกโก้ในฐานะซูเปอร์ฟู้ด พบว่า โกโก้ หรือ ดาร์กช็อกโกแลตที่มีส่วนผสมของโกโก้อย่างน้อย 70% ขึ้นไป มีคุณประโยชน์ทบคู่ที่เป็นได้ทั้ง โพรไบโอติก และ พรีไบโอติก (พรี เป็นอาหารของ โพร) โดยมีงานวิจัยศึกษาของมหาวิทยาลัยหลุยเซียนา ดร.จอห์น ฟินลีย์ พบความเชื่อมโยงของพรีไบโอติกส์ในลำไส้กับดาร์กช็อกโกแลต อีกทั้งโกโก้เป็นแหล่งของใยอาหารชั้นยอด ซึ่งมีความสำคัญในการดูแลระบบขับถ่ายให้เป็นปกติ และใยอาหารยังทำหน้าที่เป็นพรีไบโอติกซึ่งทำหน้าที่เป็นอาหารสำหรับแบคทีเรียที่มีประโยชน์ (โพรไบโอติก) ในลำไส้
  • งานวิจัยจาก American Journal of Clinical Nutrition พบว่าโกโก้มีส่วนช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ชนิดดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น แลคโตบาซิลลัส (Lactobacillus) และ บิฟิโดแบคทีเรียม (Bifidobacterium) ซึ่งมีส่วนช่วยส่งเสริมสุขภาพของลำไส้ ช่วยลดการอักเสบ และส่งผลดีต่อระบบภูมิคุ้มกันโดยรวม [14]

6. โกโก้บำรุงผิว
งานวิจัยยืนยันประโยชน์ของโกโก้ในฐานะซูเปอร์ฟู้ด พบว่าการบริโภคโกโก้ มีส่วนช่วยให้ผิวพรรณดูดี เพราะว่าโกโก้ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อผิพรรณ ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส ชะลอการเกิดริ้วรอย แลดูอ่อนเยาว์ [15]

 7. โกโก้กับโรคมะเร็ง
มีงานวิจัยศึกษาส่วนประกอบของโกโก้ พบว่าสารฟลาโวนอยด์ในโกโก้มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการอักเสบ ปกป้องเซลล์จากความเสียหาย ยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็ง และป้องกันการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง  ซึ่งมีการทดลองในสัตว์ โดยให้อาหารที่อุดมด้วยโกโก้หรือสารสกัดจากโกโก้ ปรากฏว่าสามารถลดมะเร็งเต้านม มะเร็งตับอ่อน มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ใหญ่ รวมถึงมะเร็งเม็ดเลือดขาว สำหรับงานวิจัยศึกษาในมนุษย์พบว่าสารฟลาโวนอยด์มีความสัมพันธ์กับการลดความเสี่ยงของมะเร็ง เนื่องจากเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง ซึ่งมีบทบาทในการป้องกันมะเร็ง อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีงานวิจัยศึกษาเพิ่มเติม แต่ที่ต้องรู้เพิ่มเติมอีกนิดคือ โกโก้ยังมีสารฟลาโวนอยด์ที่มีความเข้มข้นสูงที่สุดในบรรดาอาหารต่อน้ำหนักทั้งหมดอีกด้วย [16]



สุขภาพดีแบบง่าย ๆ แค่กินโกโก้ สุดยอดอาหารระดับซูเปอร์ฟู้ด
โกโก้ไม่ได้เป็นเพียงส่วนผสมหลักของช็อกโกแลตที่คนทั่วโลกรู้จักเท่านั้น แต่ยังเป็นสุดยอดอาหารระดับซูเปอร์ฟู้ด (superfood) และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้ที่ใส่ใจสุขภาพและต้องการเพิ่มความสุขให้กับตัวเองในทุก ๆ วัน ด้วยคุณค่าทางโภชนาการของโกโก้ที่น่าทึ่งและกลิ่นหอมกรุ่น ผสานกับรสชาติที่เข้มข้นของโกโก้ ทำให้โกโก้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการบริโภคในรูปแบบที่คุณชื่นชอบ
 
เพื่อให้การบริโภคโกโก้เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ควรเลือกโกโก้บริสุทธิ์ 100% หรือแบบที่ไม่เติมน้ำตาล (unsweetened cocoa powder) เพราะการเลือกวัตถุดิบที่ดี มีส่วนช่วยลดปริมาณแคลอรีส่วนเกินและน้ำตาลที่ไม่จำเป็นต่อร่างกาย อีกทั้งยังทำให้ร่างกายได้รับคุณค่าทางโภชนาการจากโกโก้อย่างเต็มที่

การปรุงโกโก้ควรใช้นมพืช เช่น นมอัลมอนด์ นมโอ๊ต หรือใช้น้ำเปล่าแทนนมวัว แต่หากต้องการเพิ่มรสหวาน สามารถใช้น้ำผึ้งแท้หรือผลไม้ เช่น อินทผาลัม หรือกล้วยบด ซึ่งไม่เพียงเพิ่มรสชาติ แต่ยังเพิ่มใยอาหารและสารอาหารที่มีประโยชน์เพิ่มเติมอีกด้วย

การกินโกโก้ที่คุณสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตชีวิตประจำวันได้
  • มื้อเช้า เริ่มต้นวันใหม่ด้วยโกโก้ร้อน ที่ปรุงด้วยผงโกโก้บริสุทธิ์และนมถั่วเหลืองหรือนมอัลมอนด์ อาจเติมอบเชยหรือวานิลลาเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมและรสชาติ หรือจะทำเป็นสมูทตี้โกโก้กับกล้วยหอม ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม
  • มื้อบ่าย อาจลองเปลี่ยนจากเครื่องดื่มแก้วประจำมาเป็นโกโก้เย็นแบบแคลอรีต่ำ โดยผสมผงโกโก้กับนมอัลมอนด์แล้วใส่น้ำแข็ง อาจจะเพิ่มความหวานหอมด้วยน้ำผึ้งเล็กน้อย เครื่องดื่มแก้วนี้จะช่วยเติมพลังงานในช่วงบ่าย สร้างความสดชื่นให้ร่างกาย
  • หลังออกกำลังกาย สามารถนำผงโกโก้ไปผสมกับสมูทตี้ หรือ โปรตีนเชค (Protein Shake) เครื่องดื่มที่ทำมาจากผงโปรตีน เพื่อเพิ่มพลังงานและช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อ เนื่องจากโกโก้มีแร่ธาตุ เช่น แมกนีเซียม ที่มีช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและลดการตึงเครียด
  • ก่อนนอน การดื่มโกโก้อุ่น ๆ ผสมกับนมอัลมอนด์และเติมวานิลลาเล็กน้อย มีส่วนช่วยให้ร่างกายรู้สึกสงบและเตรียมพร้อมสำหรับการพักผ่อน

เคล็ดลับเพื่อประโยชน์สูงสุดจากโกโก้
  •  การบริโภคโกโก้หรือการดื่มโกโก้ทุกวัน ควรอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม โดยทั่วไป 1-2 แก้วต่อวัน ก็เพียงพอแล้ว การปรุงโกโก้ให้เป็นสูตรที่ดีต่อสุขภาพ มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงจากการบริโภคน้ำตาล หรือแคลอรีส่วนเกิน นอกจากนี้ การจับคู่โกโก้กับส่วนผสมอื่น ๆ เช่น อบเชย วานิลลา หรือผลไม้สด มีส่วนช่วยเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ และทำให้การดื่มโกโก้ไม่น่าเบื่อ
  • โกโก้สุดยอดอาหารระดับซูเปอร์ฟู้ดที่มากกว่าเครื่องดื่มรสชาติอร่อย ด้วยคุณสมบัติทั้งในด้านสุขภาพกายและจิตใจ โกโก้จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความใส่ใจในตัวเอง และวิถีชีวิตที่สมดุลได้ในทุก ๆ วัน ไม่ว่าจะดื่มตอนเช้า บ่าย หรือก่อนนอน โกโก้สามารถสร้างความสุขและเพิ่มพลังให้กับคุณได้เสมอ

แจกสูตรโกโก้ อร่อย ทำง่าย ได้คุณประโยชน์
การนำโกโก้บริสุทธิ์ 100% หรือโกโก้แบบไม่เติมน้ำตาล (unsweetened cocoa powder) มาเป็นวัตถุดิบในเมนูเพื่อสุขภาพถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการความอร่อยพร้อมคุณค่าทางโภชนาการ จึงเลือกโกโก้มาเป็นส่วนผสมหลักสำหรับการทำเมนูสุขภาพ ดังนี้



โกโก้ครีมมี่
ส่วนผสม
  1. ผงโกโก้แบบไม่หวาน (Cocoa Powder) 2 ช้อนชา
  2. สารให้ความหวาน (หญ้าหวานสกัด, ซูคราโลส) หรือ น้ำผึ้ง 1-2 ช้อนชา (ปรับตามความชอบ)
  3. น้ำร้อน 2 ช้อนโต๊ะ
  4. นมสด (นมวัว, นมอัลมอนด์, นมถั่วเหลือง) 1 ถ้วย
  5. วิปครีมหรือผงโกโก้ (สำหรับตกแต่ง)
วิธีทำ
  1. ใส่ผงโกโก้และสารให้ความหวานลงในแก้วหรือชามขนาดเล็ก เติมน้ำร้อน 2 ช้อนโต๊ะลงไป คนให้โกโก้ละลายเป็นเนื้อครีมข้น (เพื่อให้ผงโกโก้ไม่จับตัวเป็นก้อน)
  2. จากนั้นก็จะมาทำการอุ่นนม โดยเทนมลงในหม้อเล็กหรือแก้วที่ทนความร้อน อุ่นนมบนเตาโดยใช้ไฟอ่อน หรือใช้ไมโครเวฟ (ประมาณ 1-2 นาที) จนร้อนแต่ไม่เดือด
  3. นำส่วนผสมทั้งหมดมาผสมรวมกัน ด้วยการเทนมร้อนลงในแก้วที่เตรียมโกโก้ไว้ คนให้เข้ากันจนได้ส่วนผสมที่เนียน
  4. ตกแต่งด้วยวิปครีม หรือ ผงโกโก้ หรือจะไม่ตกแต่งก็ได้
  5. ดื่มทันทีขณะที่โกโก้ยังร้อน เพื่อรสชาติที่เข้มข้นและหอมกรุ่น

รู้ไหมว่า
  • หากต้องการเพิ่มความหอมและมิติของรสชาติ ลองเติมผงอบเชยเล็กน้อย หรือหยดกลิ่นวานิลลาลงไป
  • โกโก้ครีมมี่เป็นเมนูโกโก้ร้อน สำหรับคนที่ชอบโกโก้เย็น สามารถทำตามขั้นตอนข้างต้น แล้วปล่อยให้โกโก้เย็นลง จากนั้นเติมน้ำแข็งลงในแก้วก่อนรับประทาน



โกโก้ซัมเมอร์
ส่วนผสม
  1. ผงโกโก้แบบไม่หวาน (Cocoa Powder) 2 ช้อนชา
  2. น้ำร้อน 3 ช้อนโต๊ะ
  3. สารให้ความหวาน (หญ้าหวานสกัด, ซูคราโลส) หรือ น้ำผึ้ง 1-2 ช้อนชา (ปรับตามความชอบ)
  4. นมสด (นมวัว, นมอัลมอนด์, นมถั่วเหลือง) 1 ถ้วย
  5. น้ำแข็ง 1 แก้ว
  6. วิปครีมหรือผงโกโก้ (สำหรับตกแต่ง)
วิธีทำ
  1. ใส่ผงโกโก้และสารให้ความหวานลงในแก้วหรือชามขนาดเล็ก
  2. เติมน้ำร้อน 3 ช้อนโต๊ะลงไป คนให้โกโก้ละลายเป็นเนื้อครีมข้น (เพื่อให้ผงโกโก้ไม่จับตัวเป็นก้อน)
  3. เทนมลงในแก้วหรือชามที่มีโกโก้ คนให้เข้ากันจนได้ส่วนผสมที่เนียน
  4. เตรียมแก้วที่ใส่น้ำแข็งจนเติม แล้วเทส่วนผสมโกโก้ที่เตรียมไว้ลงไป
  5. ตกแต่งด้วยวิปครีม หรือ ผงโกโก้ หรือจะไม่ตกแต่งก็ได้ พร้อมดื่มความชดชื่นได้ทันที

รู้ไหมว่า
  • หากชอบรสชาติโกโก้ที่เข้มข้นยิ่งขึ้น ให้เพิ่มปริมาณผงโกโก้
  • โกโก้ซัมเมอร์เป็นเมนูโกโก้เย็น ทำง่าย อร่อย สดชื่น 



โกโก้กล้วยหอมสมูทตี้
ส่วนผสม
  1. ผงโกโก้แบบไม่หวาน (Cocoa Powder) 1 ช้อนชา
  2. กล้วยหอมสุก 1 ลูก
  3. นมสด (นมวัว, นมอัลมอนด์, นมถั่วเหลือง) 1 ถ้วย
  4. สารให้ความหวาน (หญ้าหวานสกัด, ซูคราโลส) หรือ น้ำผึ้ง 1-2 ช้อนชา (ปรับตามความชอบ)
  5. น้ำแข็ง 1 ถ้วย
  6. เมล็ดเจีย หรืออัลมอนด์สไลซ์ (สำหรับตกแต่ง)
วิธีทำ
  1. ปอกเปลือกกล้วยหอมและหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เพื่อให้ปั่นง่ายขึ้น
  2. ใส่กล้วยหอม ผงโกโก้ น้ำผึ้ง นมสด และน้ำแข็งลงในเครื่องปั่น
  3. ปั่นจนส่วนผสมเนียนละเอียด หากต้องการเนื้อสมูทตี้ที่ข้นขึ้น สามารถเพิ่มน้ำแข็งหรือลดปริมาณของนมได้
  4. ตกแต่งด้วยการโรยเมล็ดเจีย อัลมอนด์สไลซ์ หรือกล้วยหอมฝานบาง ๆ ด้านบน

ที่มา
[1] โกโก้ บริโภคอย่างไรให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพ 
[2] ฟลาโวนอยด์ สุดยอดสารต้านอนุมูลอิสระต้านโรค / Pobpad
[3] Oxidative Stress ตัวการของปัญหาสุขภาพ / Pobpad
[4] โกโก้ ความอร่อยที่มาพร้อมสุขภาพดี / Pobpad
[5] โกโก้ช่วยลดความดันโลหิตและความต้านทานต่ออินซูลิน และปรับปรุงการขยายหลอดเลือดที่ขึ้นอยู่กับเอนโดทีเลียมในผู้ป่วยความดันโลหิตสูง / AHA-ASA Journals
[6] ผลการปกป้องระบบประสาทของฟลาโวนอลจากโกโก้และอิทธิพลต่อประสิทธิภาพการรับรู้
[7] กินช็อกโกแลตอย่างไร ให้หัวใจแข็งแรง
[8] Eat Smart เลือกช็อกโกแลตที่ดีต่อใจ
[9] โกโก้อาจช่วยป้องกันสมองเสื่อม / วงการแพทย์
[10] สารต้านอนุมูลอิสระในโกโก้
[11] การศึกษาสารสำคัญและฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระในสารสกัดผงโกโก้สายพันธุ์ ชุมพร 1 
[12] การบริโภคฟลาโวนอลในโกโก้ช่วยปรับปรุงการทำงานของสมอง การควบคุมความดันโลหิต และโปรไฟล์การเผาผลาญในผู้สูงอายุ: การศึกษาโกโก้ ความรู้ความเข้าใจ และการแก่ชรา (CoCoA) – การทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุม / วงการแพทย์
[13] เติมโพรไบโอติกส์ ตอนที่ 3: ซูเปอร์ฟู้ด-ดาร์กช็อกโกแลต / กรุงเทพธุรกิจ 
[14] โพลีฟีนอลโกโก้และปฏิสัมพันธ์ของจุลินทรีย์ในลำไส้: ความสามารถในการดูดซึม ผลของพรีไบโอติก และผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ / / วงการแพทย์
[15] สุขภาพดีขึ้นได้แค่ทานโกโก้ / ตอบทุกความต้องการ เชี่ยวชาญทุกการดูแล / โรงพยาบาลรามคำแหง
[16] คุณสมบัติในการป้องกันมะเร็งของโกโก้: การทบทวนหลักฐานทางระบาดวิทยา / วงการแพทย์
[17] โกโก้ ประโยชน์ดีๆ สรรพคุณเด่นๆ และข้อมูลงานวิจัย
บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ