Home Fit Trend FOOD FOR FIT แนะนำ 10 ผลิตภัณฑ์สุขภาพยาสมุนไพรมีอะไรบ้างมาดูกัน

แนะนำ 10 ผลิตภัณฑ์สุขภาพยาสมุนไพรมีอะไรบ้างมาดูกัน

แนะนำ 10 ผลิตภัณฑ์สุขภาพ ยาสมุนไพรมีอะไรบ้างมาดูกัน เนื่องจากปัจจุบันผลิตภัณฑ์สุขภาพ ยาสมุนไพรเป็นทางเลือกในการดูแลสุขภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยความคิดที่ว่าผลิตภัณฑ์สุขภาพ ยาสมุนไพรมีความปลอดภัย ประกอบกับนโยบายส่งเสริมการใช้สมุนไพรของรัฐบาล และการกำกับดูแลผลิตภัณฑ์สุขภาพ ยาบำรุงกำลัง อาหารเสริมที่มีการผลิตถูกต้องภายใต้กฏหมาย โดยกองผลิตภัณฑ์สมุนไพร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อให้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ ยาสมุนไพรอยู่บนความมั่นใจของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ

ยิ่งในคนรุ่นใหม่ให้ความใส่ใจดูแลสุขภาพตัวเองมากยิ่งขึ้น มีความรักตัวเองไปพร้อมกับห่วงใยผู้สูงวัยและคนในครอบครัวมากขึ้น ทำให้สมุนไพรที่เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย เช่น สมุนไพรไทยเป็นที่ต้องการของตลาด เพราะถือเป็นวัตถุดิบหลักสำหรับนำไปผลิตเป็นเวชภัณฑ์ เครื่องสำอาง และอาหารเสริม แต่รู้ไหมว่า! พืชสมุนไพรที่ได้รับความนิยมในตอนนี้ ได้แก่ ขิง พริกไทยดำ ดอกคำฝอย ใบ-ฝักมะขามแขก กระชายดำ ชา ไพล ขมิ้นชัน และในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สมุนไพรที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วคือ ขิง ฟ้าทะลายโจร กระเทียม หอมแดง และมะนาว เพราะมีประสิทธิภาพในการบรรเทาและป้องกันไข้หวัดได้ ซึ่ง 10 ผลิตภัณฑ์สุขภาพ ยาสมุนไพรที่ดื่มแล้วมีคุณประโยชน์ในการป้องกัน บรรเทา รักษา เพื่อให้เรามีสุขภาพที่ดีนั้นมีอะไรบ้าง มาดูกันค่ะ
 
ใบและฝักมะขามแขก

1. ใบและฝักมะขามแขก
หลายคนยังมีปัญหาสุขภาพในเรื่องของการตื่นเช้าแล้วพบกับการขับถ่ายที่ไม่ปกติ เพราะการที่มีระบบขับถ่ายไม่ปกติ เป็นสัญญาณเตือนที่ต้องใส่ใจว่า ควรดูแลสุขภาพให้ดี ซึ่งแพทย์แผนไทยได้อธิบายถึงระบบขับถ่ายที่ไม่ปกติชนิดหนึ่งที่เรียกว่า ท้องผูกแบบร้อน เพราะมีพลังหยางแกร่งมาก (หยิน ธาตุเย็น หยาง ธาตุร้อน) ธาตุในร่างกายเสียสมดุล ทำให้เกิดความร้อนภายในร่างกาย เนื้อตัวรู้สึกร้อน ใบหน้าค่อนข้างแดงไปจนถึงแดงคล้ำ ริมฝีปากแห้งเป็นร่องหรือแตก ลิ้นมีสีแดง อาจมีฝ้าเหลืองแห้ง ๆ ความร้อนภายในร่างกายยังทำให้อุจจาระแข็งเพราะลำไส้แห้งและมีกลิ่นปากแรงมาก เนื่องจากไม่ได้ขับถ่ายมานาน ทำให้มีกากของเสียค้างในลำไส้เยอะมาก ส่งผลให้ระบบภายในร่างกายขับลมร้อนขึ้นมากลายเป็นกลิ่นปาก หรือมีลมหายใจที่รู้สึกไม่สะอาด ดังนั้น การดูแลระบบขับถ่ายให้เป็นปกติจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทำได้ไม่ยาก ด้วยการเลือกผลิตภัณฑ์สุขภาพ ยาสมุนไพรที่มีส่วนช่วยให้มีระบบขับถ่ายที่เป็นปกติ ซึ่งในคนส่วนใหญ่เลือกเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพอย่างชาชงสมุนไพรที่มีส่วนผสมของใบและฝักมะขามแขก ดื่มแล้วช่วยระบาย ดูแลระบบขับถ่ายให้เป็นปกติ เพราะการขับถ่ายถือเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญของชีวิตเลยก็ว่าได้ การดูแลระบบขับถ่ายให้ดี จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจแข็งแรง สมองปลอดโปร่ง เกิดสมดุลในร่างกาย เมื่อระบบทางเดินอาหาร ระบบย่อยอาหาร ลำไส้ ทำงานได้ดี ก็มีส่วนช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะกว่า 70% ของภูมิกันของร่างกาย สร้างขึ้นในลำไส้ใหญ่ของเรานั่นเอง
 
ดอกคำฝอย

2. ดอกคำฝอย
ดอกคำฝอยเป็นพืชสมุนไพรที่อุดมไปด้วยคุณค่ามากมาย โดยเฉพาะเรื่องของการปกป้องดูแลสุขภาพและการบรรเทาอาการของโรคบางชนิดได้ดี อีกทั้งดอกคำฝอย 100 กรัม มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เพราะอุดมไปด้วยแร่ธาตุและสารอาหารที่มีประโยชน์ ได้แก่ โปรตีน 8-17% ใยอาหาร 10.4% แคลเซียม 530 มิลลิกรัม เหล็ก 7.3 มิลลิกรัม แมกนีเซียม 287 มิลลิกรัม น้ำมัน 35-45% กรดโอเลอิก 10-60% กรดลิโนเลอิก 60-80% สารคาร์ทามีดีน (carthamidine) ให้สีเหลือง และสารคาร์ทามีน (carthamine) ให้สีแดง เป็นต้น โดยสารอาหารเหล่านี้ล้วนดีต่อสุขภาพทั้งสิ้น

ดอกคำฝอยมีสรรพคุณที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายจริงหรือไม่ มีการศึกษาและหลักฐานทางการแพทย์บางส่วนพิสูจน์แง่มุมต่าง ๆ ของดอกคำฝอยว่ามีส่วนช่วย ลดไขมันในเส้นเลือด บำรุงหัวใจ ลดระดับน้ำตาลในเลือด ดีต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน บรรเทาอาการปวดประจำเดือน ละช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย
 
พริกไทยดำ

3. พริกไทยดำ
พริกไทย ถูกเรียกว่าราชาแห่งเครื่องเทศที่มีคุณประโยชน์มากมาย ทั้งเป็นเครื่องปรุงที่เอาไว้ดับคาวอาหารและเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อการรักษา มีขนาดเล็ก รสชาติเผ็ดร้อน ถ้าทำเป็นแบบแห้งก็จะได้ทั้งพริกไทยขาว (ปอกเปลือกแล้ว) พริกไทยดำ (ไม่ปอกเปลือก) หรือถ้านำไปป่นก็จะกลายเป็นพริกไทยป่น เอาไว้โรยหน้าอาหารต่าง ๆ และให้กลิ่นหอมฉุน ในพริกไทยจะมีน้ำมันหอมระเหย 1-2.5% มีสารอัลคาลอยด์หลัก คือ Pipercanine และ Piperidine ประมาณ 5-9% ซึ่งเป็นตัวทำให้เผ็ดร้อนและมีกลิ่นฉุน แต่มีคุณค่าทางโภชนาการที่จำเป็นต่อร่างกายมากมาย อาทิ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ไนอาซิน วิตามินซี เป็นต้น

พริกไทยดำถือเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพ ยาสมุนไพรที่มีประโยชน์ในการรักษาโรคต่าง ๆ เช่น ลำไส้ แก้ปวด แก้อักเสบ โรคกระเพาะ ฯลฯ ในตำราจีนใช้พริกไทยดำในการรักษา โรคมาลาเรีย โรคท้องเดินจากอหิวาต์และแก้ไข้

พริกไทยดำมีน้ำมัน (สารพิเพอรีน) นำมาเจือจางกับน้ำสำหรับสูดดม หรือทาถูผิวหนัง ทำให้หายใจโล่งขึ้น ลดอาการไข้ หนาวสั่น  ฆ่าเชื้อโรคได้ดี และสามารถนำมาผสมกับน้ำมันแล้วนวดบริเวณที่ปวดกล้ามเนื้อได้ นอกจากนี้กลิ่นของพริกไทยยังเข้าไปกระตุ้นสมองให้รู้สึกตื่นตัวอยู่เสมอ ส่วนในตำราไทยจะนำพริกไทยดำมาทำเป็นสมุนไพรเพื่อแก้อาการจุกเสียด แน่นเฟ้อจากอาหารไม่ย่อย เสริมระบบเผาผลาญในร่างกาย แก้อาการอ่อนเพลีย เป็นต้น
 
ขิง

4. ขิง
เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพยอดนิยม จัดเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพ ยาสมุนไพรที่ควรมีติดบ้านสำหรับชงดื่มได้บ่อยครั้งตามความต้องการ เพราะน้ำขิงมีสารประกอบสำคัญที่ได้จากน้ำมันหอมระเหยในขิงอย่าง “จินเจอร์รอล” จัดว่ามีคุณสมบัติทางยานานัปการ เพราะสารจินเจอร์รอลถือเป็นหัวใจสำคัญของขิงในการใช้เพื่อจุดประสงค์ทางการแพทย์ เนื่องจากจินเจอร์รอลมีส่วนช่วยในการต้านอาการอักเสบ ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน บรรเทาอาการปวด คลายเส้นประสาท ลดไข้และมีคุณสมบัติในการต่อต้านจุลชีพหรือแบคทีเรีย เป็นต้น

นอกจากนี้ ขิง ยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุมากมาย ได้แก่ โฟเลต (วิตามินบี 9) ไนอาซิน (วิตามินบี 3) กรดแพนโทธีนิก (วิตามินบี5) ไพริด็อกซีน (วิตามินบี 6) วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี วิตามินเค โซเดียม โปแตสเซียม แคลเซียม ทองแดง เหล็ก แมกนีเซียม แมงกะนีส ฟอสฟอรัส และ ซิงค์ (สังกะสี) (อ้างอิงจาก: ฐานข้อมูลโภชนาการแห่งชาติของกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา หรือ USDA นักวิจัยหลายคนตั้งข้อสันนิษฐานว่าขิงมีประโยชน์ต่อหัวใจและมีคุณสมบัติในการลดระดับคอเลสเตอรอลได้ เพราะขิงมีคุณสมบัติในการกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ที่ช่วยให้ร่างกายมีการใช้คอเลสเตอรอลเพิ่มขึ้น พร้อมลดระดับคอเลสตอรอลร่วมด้วย

ขงจื๊อ นักปราชญ์จีน ได้เสนอว่า "อาหารทุกมื้อไม่ควรละเลยขิง” ตอกย้ำชัดเจนว่า น้ำขิง คือเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพยอดนิยม ซึ่งจริง ๆ แล้วสำหรับคนไทย ต่างรู้จักสมุนไพร "ขิง" เป็นอย่างดี เพราะเป็นเครื่องเทศที่นำมาปรุงเป็นอาหารได้สารพัด ช่วยชูรสให้อาหาร ช่วยดับกลิ่นคาวในอาหาร ช่วยให้อาหารกลิ่นหอมชวนกิน และขิงยังอยู่ในตำรับยารักษาโรคภัยไข้เจ็บได้มากมาย ทั้งช่วยขับลม ช่วยย่อยอาหาร ช่วยขับเหงื่อ ขับน้ำนม ช่วยบำรุงธาตุ บำรุงกำลัง ฯลฯ แต่ด้วยรสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของขิง ทำให้มีหลายคนที่ไม่ใช่คอขิง แต่ก็อยากได้ประโยชน์ของขิง จึงทำให้เกิดสูตรตำรับยาไปจนถึงน้ำขิงเครื่องดื่มเพื่อสุขขภาพ หรือเครื่องดื่มต่าง ๆ ที่มีส่วนผสมของขิง เพื่อให้ง่ายต่อการบริโภคและได้คุณประโยชน์มากมายจากขิง รู้อย่างนี้แล้ว มาชวนคนที่คุณรักและห่วงใยชงน้ำขิงเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพกันนะคะ
 
ฟ้าทะลายโจร

5. ฟ้าทะลายโจร
เนื่องมาจากการส่งเสริมและพัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพ ยาสมุนไพรอย่างเป็นระบบ ส่งผลให้ประเทศไทยสามารถสร้างความมั่นคงทางยา โดยมีรายการยาที่ใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาสุขภาพ มีหลักฐานที่สนับสนุนการใช้ตามสรรพคุณ (Health Benefits) หรือบ่งใช้ (Clinical Indication) มีประสบการณ์การใช้ในประเทศไทยอย่างเพียงพอ และในบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร พ.ศ. 2564 ฟ้าทะลายโจร ที่อยู่ในรูปผลิตภัณฑ์สมุนไพรสกัดและยาผงฟ้าทะลายโจร ที่ระบุว่ามีสารแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ในปริมาณที่ไม่น้อยกว่า 20 มก. ต่อเม็ดหรือแคปซูล ได้ถูกเพิ่มในบัญชียาหลักฯ สำหรับใช้รักษาผู้ป่วยโควิดที่มีอาการรุ่นแรงน้อยได้ และสามารถใช้แก้ไข้ บรรเทาอาการของโรคหวัด เช่น ไอ เจ็บคอ น้ำมูกไหล เป็นต้น 

อย่าลืมมองหาผลิตภัณฑ์สุขภาพ ยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร สำหรับเก็บไว้ในตู้ยาสามัญประจำบ้านนะคะ เลือกยี่ห้อที่มีสารแอนโดรกราโฟไลด์ 20 มก. ต่อแคปซูลขึ้นไป เลือกแบบที่มีการปกป้องตัวยาอย่างดีที่บรรจุในซองอะลูมิเนียมฟอยล์พร้อมสารกันชื้น เพื่อป้องกันและรักษาคุณภาพสมุนไพรนะคะ
 
กระชายดำ

6. กระชายดำ
“กระชายดำ” เป็นพืชที่มีสรรพคุณทางยาสมุนไพรและได้รับความนิยมในการนำมาปรุงอาหาร กระชายดำได้รับสมญานามว่า “โสมเมืองไทย” เนื่องจากอุดมไปด้วยสรรพคุณมากมาย โดยเฉพาะการช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ แพทย์ไทยโบราณกล่าวว่ากระชายดำแก้กามตายด้าน ทำให้กระชุ่มกระชวย บำรุงกำหนัด บำรุงกำลัง แก้ปวดเมื่อย สรรพคุณคล้ายโสม แต่กระชายดำมีรสเผ็ดร้อน ช่วยขับลมในลำไส้ แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ แก้ปวดมวนในท้อง แก้อาการปวดบิดในลำไส้ แก้ท้องเสีย ฯลฯ จึงมีการนำกระชายดำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพ ยาสมุนไพรหลากหลายรูปแบบ อาทิ ผลิตภัณฑ์สุขภาพ ยาสมุนไพรที่มีส่วนผสมของกระชายดำอย่างกาแฟสูตรผสมกระดำสกัด เป็นต้น
 
มะนาว

7. มะนาว
สายเฮลท์ตี้ต่างยอมรับในคุณประโยชน์ของมะนาว หรือเลือกรับประทานผลิตภัณฑ์สุขภาพ ยาสมุนไพรที่มีส่วนผสมของน้ำมะนาว เนื้อมะนาว เปลือกมะนาว หรือแม้แต่กลิ่นของมะนาว ก็มีส่วนช่วยสร้างความสดชื่นตื่นตัวให้กับสุขภาพได้ โดยมะนาวเป็นผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวจัดและจัดอยู่ในสกุลเดียวกับส้ม นิยมนำมะนาวมาเป็นเครื่องปรุงรสที่มีคุณค่าทางโภชนาการและทางการแพทย์อีกด้วย โดยนอกจากความโดดเด่นด้านรสชาติแล้ว มะนาวยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นราก ใบ ดอก เมล็ด หรือเปลือก เนื่องจากส่วนต่าง ๆ เหล่านี้ก็มีสรรพคุณทางยามากมายและสามารถใช้ทำความสะอาดเครื่องเรือนและคราบสกปรกต่าง ๆ ได้อีกด้วย

มะนาว อุดมไปด้วยกรดแอสคอร์บิก (Ascorbic acid) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ วิตามินซี ที่มีส่วนช่วยป้องกันโรคลักปิดลักเปิด บำรุงผิวพรรณ กระดูก ฟัน และหลอดเลือด ทั้งยังมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย

มะนาว อุดมไปด้วยกรดซิตริก (Citric acid) ที่มีส่วนช่วยสลายนิ่วในไต และขับแคลเซียมส่วนเกินออกจากหลอดเลือดแดง ตับอ่อนและไต รวมถึงช่วยขจัดล้างสารพิษและไขมัน กระตุ้นการหลั่งเอนไซม์ธรรมชาติ ช่วยให้ขับถ่ายคล่อง ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส และไม่รู้สึกอืด บวมอีกด้วย
 
ถั่งเฉ้า, เห็ดชิตาเกะ, เห็ดหลินจือ

8. ถั่งเฉ้า, เห็ดชิตาเกะ, เห็ดหลินจือ

ถั่งเฉ้า เป็นยาบำรุงร่างกายชั้นยอด มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย เหมาะสำหรับผู้ที่รักและดูแลสุขภาพ เพราะถั่งเฉ้ามีส่วนช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกัน,บรรเทาอาการภูมิแพ้, บำรุงไต, บรรเทาอาการอ่อนเพลีย, บรรเทาอาการไอ, บรรเทาอาการเจ็บหน้าอก, บรรเทาอาการหอบหืด, ละลายเสมหะ, บำรุงปอด, ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด, ช่วยลดระดับโคเลสเตอรอลในเลือด, ใช้บำรุงผู้ป่วยที่เพิ่งฟื้นไข้, ชะลอความชรา, ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนของเลือดให้คล่องตัว ช่วยขยายหลอดเลือด และเพิ่มปริมาณของเลือดที่เข้าไปหล่อเลี้ยงปอดและหัวใจ เพิ่มระดับออกซิเจนและช่วยบำรุงและเพิ่มประสิทธิภาพของตับและไตให้ดีขึ้น บรรเทาอาการหย่อนและเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ และเห็ดถั่งเฉ้ายังเชื่อว่าช่วยรักษาโรคมะเร็งได้อีกด้วย จึงมีความต้องการในท้องตลาดสูง และมีราคาแพง

เห็ดชิตาเกะ หรือเห็ดหอม เป็นเห็ดชนิดหนึ่งที่นิยมรับประทานกัน และมีผลการศึกษาที่พบว่า เห็ดชิตาเกะ หรือเห็ดหอม เป็นเห็ดที่มีแคลอรี่ต่ำและเป็นแหล่งไฟเบอร์ชั้นดีที่อุดมไปด้วยเกลือแร่ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 12 วิตามินดี และกรดแพนโททีนิค (Pantothenic) นอกจากนี้ยังมีโปรตีน เอนไซม์ กรดอะมิโนที่จำเป็นอีก 8 ชนิด และสารเลนทิแนน (lentinan) ที่มีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ระบบภูมิคุ้มกันให้มีประสิทธิภาพในการต่อสู้ยับยั้งหรือป้องกันร่างกายจากสิ่งแปลกปลอมที่ทำให้เกิดการติดเชื้อและช่วยฟื้นฟูร่างกาย นับว่าเป็นเห็ดที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก ชาวจีนและญี่ปุ่นเชื่อว่าเห็ดชิตาเกะ หรือเห็ดหอม เป็นเห็ดบำรุงกำลัง เพิ่มการไหลเวียนโลหิต บำรุงกระดูก และเป็นยาอายุวัฒนะ

เห็ดหลินจือ เป็นสมุนไพรจีนที่ใช้เพื่อรักษาทางการแพทย์มานานกว่า 4,000 ปี และมีสรรพคุณที่หลากหลาย จึงเชื่อว่าการกินเห็ดหลินจือสามารถทำให้อายุยืนยาวอีกด้วย โดยคุณค่าทางโภชนาการของเห็ดหลินจือ (100 กรัม) มีพลังงาน 22 แคลอรี่, คาร์โบไฮเดรต 3.3 กรัม, โปรตีน 3.1 กรัม, ไขมัน 0.3 กรัม, ใยอาหาร 1 กรัม, น้ำตาล 2 กรัม, โพแทสเซียม 432 มิลลิกรัม, แคลเซียม 1.88 มิลลิกรัม, แมกนีเซียม 7.95 มิลลิกรัม, โซเดียม 2.82 มิลลิกรัม, ฟอสฟอรัส 225 มิลลิกรัม, ซัลเฟอร์ 129 มิลลิกรัม, ทองแดง 26 มิลลิกรัม, แมงกานีส 22 มิลลิกรัม, สังกะสี 0.7 กรัม ในทางการแพทย์แผนปัจจุบัน มีการนำคุณประโยชน์ของเห็ดหลินจือที่มีส่วนช่วยเสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย ไปใช้ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ผู้ติดเชื้อ HIV และช่วยลดอาการข้างเคียงหรือแก้พิษจากการทำคีโม เป็นต้น
 
ชาเขียวมัทฉะ

9. ชาเขียวมัทฉะ
ชาเขียวมัทฉะ มีลักษณะเป็นผงเท่านั้น เป็นพันธุ์ชาเขียวเหมือน ๆ กันนี่แหละแต่ยอดชาที่นำมาผลิตมัทฉะจะผ่านกรรมวิธีการ “แกล้งชาเขียว” ซึ่งเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการปลูกต้นชาด้วยการนำที่กรองแสงมากรองแสงให้ผ่านมาถึงต้นชาน้อยลงเหลือแค่ประมาณ 10% ของแสงธรรมชาติ ต้นชาจึงผลิตสารคลอโรฟิลล์มากขึ้นเพื่อช่วยให้สังเคราะห์แสงได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีกระบวนการบดใบชาที่ถูกควบคุมโดยผู้ที่ผ่านการรับรองมาแล้วว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องชา ผงชาที่ได้จะมีสีเขียวสดจนเกือบจะเป็นเขียวนีออน ลักษณะผงจะละเอียดมากจนละลายในน้ำร้อนได้เนียนสนิท มีกลิ่นและรสเฉพาะตัวที่เป็นของมัทฉะไม่เหมือนกับชาเขียวโดยทั่วไป ที่สำคัญ ชาเขียวมัทฉะ ช่วยเพิ่มพลังสมอง โดยกุญแจหลักในส่วนประกอบของชาเขียวมัทฉะคือคาเฟอีน

คาเฟอีนในชาเขียวมัทฉะ ส่งผลต่อสมองด้วยการไปขัดขวางสารสื่อประสาทชนิดยับยั้งที่เรียกว่าอะดีโนซีน ช่วยเพิ่มการยิงนิวตรอนและความเข้มข้นของสารสื่อประสาทเช่นโดปามีนและนอร์อิพิเนฟริน จากการวิจัยแสดงให้เห็นว่าคาเฟอีนช่วยการทำงานของสมองให้ดีขึ้น รวมไปถึงเรื่องของอารมณ์ เวลาปฏิกิริยาตอบสนองและความทรงจำ

และยังมีกรดอะมิโนแอล-ธีอะนีน ในชาเขียวมัทฉะที่มีส่วนช่วยขัดขวางแนวกั้นเลือดและสมอง แอล-ธีอะนีน จะเพิ่มการทำงานสารสื่อประสาทกาบ้า ซึ่งช่วยต้านอาการวิตกกังกล และเพิ่มสารโดปามีนและผลิตคลื่นอัลฟ่าในสมอง

จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่า คาเฟอีนและแอล-ธีอะนีน ผสมผสานกันและส่งผลที่ทรงพลังให้สมองทำงานดีขึ้น
 
โสม

10. โสม
เพราะโสมถือว่าเป็นสมุนไพรที่ขนานนามกันให้เป็น ราชาของสมุนไพร หรือสุดยอดสมุนไพรเพื่อสุขภาพ ด้วยคุณประโยชน์มากมายของโสมเพียงแค่ปลายรากเล็ก ๆ ก็มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายในการช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ช่วยต่อต้านสารพิษต่าง ๆ จากสภาพแวดล้อมได้ดี ช่วยกระตุ้นเซลล์ให้สร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยต้านการติดเชื้อไวรัส ช่วยเพิ่มการผลิตฮอร์โมนไทมัส ซึ่งสำคัญต่อการทำหน้าที่ของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายสามารถต้านทานต่อยา แอลกอฮอล์ เคมีบำบัด และสารพิษต่าง ๆ ได้มากขึ้น

นอกจากนี้ โสม ยังเป็นยาครอบจักรวาลที่มีส่วนช่วยเพิ่มระดับพลังงาน บรรเทาความอ่อนเพลียเมื่อยล้าของร่างกาย ทำให้ร่างกายมีการปลดปล่อยพลังงานมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยทำให้ผนังเซลล์ดูดซึมออกซิเจนเพิ่มขึ้น มีผลทำให้ขบวนการเผาผลาญในร่างกายมีมากขึ้น ร่างกายสามารถปลดปล่อยพลังงานออกมาได้มาก จึงทำให้เหน็ดเหนื่อยช้า มีความทนทานต่อการทำงานหนักมากขึ้น เพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้ที่ดื่มโสมนั่นเอง

ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์สุขภาพ ยาสมุนไพรนั้นหลากหลายมาก ช่วยป้องกัน บรรเทาอาการเจ็บป่วย และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลสุขภาพ ทุกวันนี้ผู้บริโภคให้ความนิยมในผลิตภัณฑ์สุขภาพ ยาสมุนไพรมากขึ้น ด้วยประโยชน์หลากหลายมิติต่อสุขภาพ แต่เมื่อจะเลือก ขอให้เลือกผลิตภัณฑ์สุขภาพ ยาสมุนไพรจากผู้ผลิตที่มีคุณภาพและมาตรฐานการผลิตระดับสากล เช่น มีมาตรฐานการผลิตระดับ PIC/s GMP หรือมีใบการันตีรับรองว่าเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพ ยาสมุนไพรคุณภาพ หรือหากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับอาหารเสริม ยา หรือผลิตภัณฑ์ที่ต้องบริโภค สามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ของ อย. สำนักงานคณะกรรมอาหารและยา กระทรวงสาธารณะสุข เพื่อตรวจสอบได้ด้วยตัวเองและรับทราบว่าผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ได้ผ่านการพิจารณาด้านประสิทธิภาพ คุณภาพ และความปลอดภัย ตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา

ได้รู้จัก 10 ผลิตภัณฑ์สุขภาพ ยาสมุนไพรที่ควรมีติดบ้านไว้กันแล้ว ก็อย่าลืมการมีโภชนาการที่ดีที่เชื่อมโยงกับภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงขึ้นเสมอ การได้รับแร่ธาตุและวิตามินในปริมาณที่เหมาะสมจากอาหารที่สมดุล มีส่วนช่วยให้เซลล์ภูมิคุ้มกันและแอนติบอดีมีจำนวนเพียงพอเพื่อเป็นส่วนสำคัญให้ร่างกายพร้อมต่อสู้กับการติดเชื้อ ซึ่งระบบภูมิคุ้มกันประกอบด้วยเซลล์และสารเคมีที่ซับซ้อนจำนวนหนึ่ง ซึ่งจะทำหน้าที่ปกป้องร่างกายอย่างไม่ลดละจากเชื้อโรคที่บุกรุก สุขภาพของเรานะคะ
บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ